สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 5 Tag h (ส่วนหัวเรื่อง)


ในบทนี้เราจะมาทำความรู้จัก Tag H กัน Tag H เป็นคำสั่ง เพื่อบอกให้ทราบว่าข้อความที่อยู่ในแท็กนี้นั้นคือหัวเรื่อง Tag H  จะถูกใช้งานภายใต้ Tag body นอกจากนี้ Tag H ยังมีผลต่อการทำSEO Onpage ด้วย( การทำSEO onpage) สำหรับคำสั่งTag H นั้นจะมีตั้งแต่ <h1> ไปจนถึง <h6> โดย  <h1> จะมีขนาดและความสำคัญที่สุด เราลองมาดูการนำไปใช้งานกันครับ

<html>
<body>

<h1>This is heading 1</h1>
<h2>This is heading 2</h2>
<h3>This is heading 3</h3>
<h4>This is heading 4</h4>
<h5>This is heading 5</h5>
<h6>This is heading 6</h6>

</body>
</html>

จะได้ผลลัพธ์คือ 

This is heading 1

This is heading 2

This is heading 3

This is heading 4

This is heading 5
This is heading 6
ส่วนการนำ คำสั่งTag H ไปใช้นั้นก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเราว่าต้องการเน้นย้ำความสำคัญแค่ไหนครับ โดยปกติแล้ว <h1> มักใช้สำหรับหัวเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด

สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 4 รู้จัก Attributes(แอทริบิวต์)


Attributes(แอทริบิวต์) คือ คุณสมบัติหรือคุณลักษณะเพิ่มเติมของ Tag นั้นๆ จะมีลักษณะ คำสั่ง="ค่า" เช่น

<html lang="en-US">
<body>

<h1>test</h1>
<a href="http://smileandsbyeseo.blogspot.com/">ทดสอบ</a>

</body>
</html>

จากตัวอย่างคำสั่งที่เป็น สีแดง จะบ่งบอกถึงคุณสมบัติ Attributes(แอทริบิวต์)  ที่มักพบได้บ่อย เช่น

คำสั่งกำหนดขนาดของรูปภาพ
<img width="104" height="142">

คำสั่งจัดการตัวอักษร
<font color="red" size="20">ทดสอบ</font>

คำสั่งเชื่อมโยงเว็บไซต์
<a href="http://smileandsbyeseo.blogspot.com/">ทดสอบ</a>

นี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น คุณต้องรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับAttributes(แอทริบิวต์)  เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้ในต่อๆไป






รวมหัวข้อ สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html


เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้งานและศึกษาผมได้รวบรวมหัวข้อต่างๆที่เกี่ยวกับสอนการสร้างเว็บไซต์ด้วยคำสั่ง html เบื้องต้นไว้ในหัวข้อนี้ครับ


ทำความรู้จัก html ก่อนเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์
สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 1ทำความรู็จักและเกริ่นนำ
สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 2 โครงสร้างของ html
สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 3 คำสั่งเบื้องต้นที่ใช้งานบ่อย



สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้จาก >>>> http://www.w3schools.com/

สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 3 คำสั่งเบื้องต้นที่ใช้งานบ่อย

tag และคำสั่งต่างๆที่จำเป็นต้องรู้ในการสร้างเว็บไซต์ 



ในหัวข้อ สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html  เราพอจะทราบแล้วว่าการสร้างเว็บเพจให้เป็นเว็บไซต์ด้วยภาษา html มีโครงสร้างยังไง มีอะไรบ้าง ขอทบทวนซักนิดนะครับ เว็บเพจจะมีโครงสร้างหน้าเว็บดังนี้
<html>
<head>
<title>ส่วนหัว </title>
</head>
<body>
<h1>ตัวอย่าง</h1>
<p>ข้อมูลอันแรก</p>
</body>
</html> 

โดย tag(แท็ก) คำสั่งดังตัวอย่างเรียกว่าแท็กคำสั่งแบบเปิดและปิด เช่น <title>..... </title> และอีกประเภทคือแบบเดี่ยวเช่น <br> เรามาดูซิว่าแท็กคำสั่งต่างๆในการทำเว็บไซต์มีอะไรบ้าง

1.คำสั่งหลักๆที่ใช้งานในการทำเว็บเพจ
<html>....</html> คือ คำสั่งสำหรับบอกว่านี้คือใสส่วนของเว็บไซต์ทั้งหมด
<head>...</head> คือ ส่วนสำหรับการใส่รายละเอียดข้อมูลของเว็บไซต์และการใช้ชุดคำสั่งบางประเภทเช่น javascript css เป็นต้น
<title>......</title> คือ คำสั่งสำหรับแสดงชื่อหน้าเว็บเพจนี้
<body>....</body> คือ คำสั่งสำหรับบอกว่านี้คือส่วนของเนื้อหาทั้งหมดที่ใช้แสดงบนเว็บเพจ


2.คำสั่งเพื่อกำหนดส่วนหัวของเรื่อง  <h>

<h1>test</h1>
<h2>test</h2>
<h3>test</h3>
<h4>test</h4>
<h5>test</h5>

<h6>test</h6>

เมื่อนำไปใช้จะมีลักษณะดังนี้


test

test

test

test

test
test
3.คำสั่งเพื่อกำหนดบรรทัดหรือย่อหน้า <p>
<p>test</p>
<p>test</p>
<p>test</p>
เมื่อนำไปใช้จะมีลักษณะดังนี้
test
test
test

4.คำสั่งเพื่อกำหนดลิงค์  <a>

<a href="http://smileandsbyeseo.blogspot.com/">ทดสอบ</a>

เมื่อนำไปใช้จะมีลักษณะดังนี้

ทดสอบ


5.คำสั่งใส่รูปภาพ  <img>

<img src="seo.jpg">

เมื่อนำไปใช้จะมีลักษณะดังนี้


สำหรับบทนี้  สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 3 ก็เป็นการเกริ่นนำสำหรับคำสั่งที่จำเป็นต้องรู้นะครับเนื่องจากใช้งานบ่อย บทต่อๆไปยังมีคำสั่งที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ ก็ค่อยๆนำไปใช้กันนะครับ

สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 2 โครงสร้างของ html

คำสั่งพื้นฐานที่ใช้งานบ่อยและควรต้องรู้ในภาษา html

จาก สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 1 เราพอจะเห็นโครงสร้างคราวๆแล้วว่าเว็บไซต์มีลักษณะอย่างไรนะครับ บทนี้จะกล่าวถึง Tag คำสั่งพื้นฐานที่สำคัญที่ใช้แสดงโครงสร้างของหน้าเว็บนะครับ โดย คำสั่ง Tag ที่เราพูดอยู่นี้จะเป็นลักษณะ Tagเปิด และ Tagปิด นะครับโดยเว็บเพจทุกทุกเว็บต้องมีคือส่วนของ Tag เปิด <html> และ Tag เปิด  <body> และ Tagเปิด  </body>และ  Tag ปิด </html>เสมอๆ

ตัวอย่างโครงสร้างภาษา html
<html>
<body>
<h1>This is a heading</h1>
<p>This is a paragraph.</p>
<p>This is another paragraph.</p>
</body>
</html>
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.w3schools.com/html/html_intro.asp
จากตัวอย่างจะเห็นว่าเว็บไซต์นี้เริ่มต้นด้วยคำสั่ง <html> เพื่อบอกว่านี่คือส่วนของภาษา html จากนั้นก็เป็นคำสั่งในส่วน <body> เพื่อบอกว่าในส่วนนี้เป็นส่วนของเนื้อหา เมื่อส่วนของเนื้อหาสิ้นสุดจะต้องทำการปิดคำสั่งด้วยคำสั่ง </body> เพื่อบอกว่าสิ้นสุดในส่วนของเนื้อหาแล้ว และต้องใช้คำสั่ง </html> เพื่อบอกว่าสิ้นสุดหน้าเว็บเพจแล้ว ส่วนคำสั่ง <h1> <p> เราจะกล่าวในบทต่อไปครับ 
โดยปกติแล้วเว็บเพจจะมี tag อีกชุดหนึ่งสำหรับการบอกว่าหน้าเว็บนี้เกี่ยวกับอะไรและเป็นชุดคำสั่งสำหรับใช้งานโค้ดบางอย่างเช่น ชุคดำสั่งของ Javascript นะครับนั่นคือ <head>...</head> เช่น

<html>
<head>
<title>ส่วนหัว </title>
</head>
<body>
<h1>ตัวอย่าง</h1>
<p>ข้อมูลอันแรก</p>
</body>
</html> 

ก็ขอจบเรื่อง สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 2 ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ สามารถย้อนกลับไปดู สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 1 ได้ด้วยนะครับ ^_^




สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 1ทำความรู็จักและเกริ่นนำ

โครงสร้างและคำสั่งต่างๆในภาษา html เบื้องต้นที่ต้องรู้


ตอนนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับ ภาษา html กันก่อนนะครับ เนื่องจากภาษา html เป็นภาษาพื้นฐานสำหรับการพัฒนาสร้างเว็บเพจให้กลายเป็นเว็บไซต์ เราต้องรู้จักองค์ประกอบของภาษา html ดังนี้ครับ

โครงสร้างของ ภาษา html
ภาษา html จะประกอบด้วยคำสั่งต่าง เรียกว่า tag จะมีลักษณะ <> เช่น

<html>
<head>
<title>ส่วนหัว </title>
</head>
<body>
<h1>ตัวอย่าง</h1>
<p>ข้อมูลอันแรก</p>
</body>
</html> 

จากตัวอย่างจะเห็น tag คำสั่งที่สำคัญๆได้แก่ tag <html>, tag <body>, tag <h> , tag <p>,tag <head>, tag <title> เป็นต้น
โครงสร้างของ ภาษา html จะเริ่มด้วย  tag <html> ตามด้วย tag <head> ตามด้วย tag <body>
คุณสามารถสร้าเว็บเพจได้โดยการก๊อปปี้โค้ดด้านบนลงโปรแกรม notepad แล้วเซฟไฟล์เป็นนามสกุล .html ลองดูวิธีทำตามรูปด้านล่างนี้ครับ


สร้าง text Document ขึ้นมาครับเพื่อจะเขียนโค้ดลงไป

ทำการดับเบิ้ลคลิ๊กเพื่อเปิดไฟล์ขึ้นมาครับ หรือ คลิ๊กเมาส์ขวา > open with > notepad ครับ แล้วทำการเพิ่มโค้ดลงไปดังตัวอย่างครับ


กดเลือก File > save as เพื่อบันทึกงานครับ

จะแสดงหน้าให้บันทึกไฟล์ครับ ตั้งชื่อว่า test.html ในช่อง Encoding ให้เลือกเป็น UTF-8 ครับเพื่อทำให้แสดงภาษาไทยได้ แล้วกด save ครับ 


คลิ๊กขวาที่ไฟล์ชื่อ test.html ที่เราเพิ่งสร้างไปครับ > open with > google chrome(หรือเว็บบราวเซอร์อื่นเช่น IE, firefox ก็ได้ครับ)



จะแสดงหน้าเว็บแบบตัวอย่างครับ
หวังว่า สอนสร้างเว็บไซต์ด้วยภาษา html ตอนที่ 1 คงไม่ยากจนเกินไปนะครับ ^_^






แนะนำเครื่องมือที่จำเป็นในการสร้างเว็บไซต์


โดยปกติแล้วการสร้างเว็บไซต์นั้นคือการเขียนโค้ดเข้าไปให้กลายเป็นเว็บไซต์ สำหรับโปรแกรมที่ใช้เขียนโค้ดพวกนี้เรียกว่า Text Editor สำหรับวินโดว์มีตัวที่ติดมาอยู่แล้วนั้นคือ notepad นั่นเองแต่ด้วยความที่ notepad ไม่มีลูกเล่นและเวลาเขียนโค้ดเยอะๆทำให้มีปัญหาได้ จึงได้มีการพัฒนาโปรแกรมสำหรับช่วยสร้างเว็บไวต์ขึ้นมาอีกมากมายทั้งฟรีและไม่ฟรี ที่ได้รับความนิยมมีดังต่อไปนี้

โปรแกรมลิขสิทธิ์เสียเงิน
1. Editplus เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากมีฟังก์ชั่นต่างๆมากมายในการเขียนโปรแกรม เบาเครื่อง
2. Dreamweaver เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดตัวหนึ่งเนื่องจากมีฟังก์ชั่นการใช้งานเพียบพร้อม และสามารถแก้โค้ดพร้อมเห็นหน้าจอเว็บไซต์ได้ด้วย

โปรแกรมฟรีแวร์
1. notepad++ มีความสามารถคล้ายกับ Editplus 
2. Sublime Text เป็นโปรแกรมที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ความสามารถและฟังก์ชั่นการใช้งานจะเยอะกว่า notepad++
3. Netbean มีฟังก์ชั่นในการใช้งานหลากหลาย นิยมนำมาใช้เขียนภาษาจาวา
4. Esclipe ได้รับความนิยมพอๆกับโปรแกรม Netbean 


ก็ลองหาโปรแกรมเหล่านี้มาใช้งานกันดูนะครับ สำหรับผมขอแนะนำ Sublime Text  ละกันเพราะได้รับความนิยมมากในขณะนี้ครับ ก็หวังว่าทุกท่านจะมีเครื่องมือสำหรับสร้างเว็บไซต์ที่ถูกใจนะครับ



ทำความรู้จัก html ก่อนเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์



HTML: (Hypertext Markup Language) หรือเรียกว่า เอชทีเอ็มแอล คือ ภาาษที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ(หน้าเว็บ 1 หน้าเรียก เพจ หน้าเว็บหลายเพจรวมกันเรียกว่า เว็บไซต์) โดยปกติแล้วหน้าเว็บเหล่านี้จะถูกเปิดโดยเว็บบราวเซอร์ เช่น IE, firefox, googlechrom เป็นต้น

ภาษา HTML มีการจัดทำเป็นมาตรฐานโดยมี World Wide Web Consortium (W3C) เป็นผู้ดูแล ปัจจุบันภาษา HTML ได้พัฒนามาสู่ยุคที่เรียกว่า HTML5 ความสามารถของ HTML5 นั้นมีมากมายเหลือเกินซึ่งยังไม่ขอกล่าวถึงเพราะจะหนักสมองปล่าวๆ 555+

ก็ขอเกริ่นนำสำหรับภาษา html แต่เพียงเท่านนี้นะครับ ในส่วนต่อๆไปเราจะต้องทำความรู็จักโค้ดต่างๆของภาษา html ที่จำเป็นในการสร้างเว็บเพจ

การตลาดออนไลน์คืออะไร และทำอย่างไร สำคัญหรือไม่

การตลาดออนไลน์คืออะไร และทำอย่างไร สำคัญหรือไม่


การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ การทำการตลาดโดยอาศัยสื่ออินเตอร์เน็ต การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากเนื่องจากทำได้ง่าย รวดเร็ว ประหยัด

การตลาดออนไลน์ ทำอย่างไร สำหรับตัวผมการทำการตลาดมีหลายวิธีด้วยกันเช่น
1. การโพสประกาศ ประชาสัมพันธ์ ข้อมูลขององค์กร หน่วยงาน หรือร้านค้าของตนผ่านแหล่งสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บบอร์ด เว็บโพสประกาศ โซเชียลเน็ตเวิร์ด
2. การทำ SEO คือ การทำให้เว็บไซต์ของเราถูกต้องตามหลักการค้นหาของ Search Engine ยักษ์ใหญ่อย่าง google โดยอาศัยหลักการ on page และ off page  เพื่อให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับหน้าแรก Google
3. การลงโฆษณากับ google adword  google adword  คือผลิตภัณฑ์หนึ่งของ google สำหรับการโปรโมทเว็บไซต์ร้านค้าหรือองค์กรผ่าน Search Engine Google สำหรับการลงโฆษณาแบบนี้จะต่างจากการทำ Seo ตรงที่การแสดงของโฆษณาจะแสดงในตำแหน่งที่เด่นชัดในหน้าการค้นหา อาจจะเป็นตำแหน่งที่ 1, 2, 3 ของหน้าเว็บค้นหา เป็นต้น
4. การลงโฆษณากับ Facebook เรียกว่า Fackbook Ads การลงโฆษณาแบบนี้เป็นการโปรโมทผ่านเว็บ facebook โดยเราสามารถกำหนดรายละเอียดต่างๆได้เช่น ต้องการให้เนื้อหาแสดงให้ เพศชายหรือเพศหญิง ช่วงอายุเท่าไหร่ ภูมิภาคไหน เป็นต้น นอกจากนี้ประเทศไทยมีการใช้งาน Facbook มาก ซึ่งการทำการตลาดแบบนี้ถือเป็นตัวช่วยที่ได้ผลทีเดียว
5. การใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คและโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันโซเชียลเน็ตเวิร์คและโซเชียลมีเดียมีผลต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันมาก การเลือกทำการตลาดผ่านช่องทางนี้จะได้ผลตอบรับที่เร็วมาก เช่น facebook google+ line youtube เป็นต้น

ความสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ ถือว่าสำคัญมากในปัจจุบันเนื่องจาก ประหยัด รวดเร็ว และครอบคลุมมากในปัจจุบัน แต่กระนั้นการทำการตลาดแบบออฟไลน์ เช่น การแจกใบปลิว แจกนามบัตร ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรทำควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดผลสำเร็จสูงสุด



เลือกจดโดเมน (Domain name) ที่ไหนดี


หลายๆคนที่ต้องการมีเว็บไซต์ของตัวเอง มีความสงสัยว่า จดโดเมนเนม ที่ไหนดี โดเมนเนมสามารถจดได้หลายที่ครับทั้งภายในประเทศไทยและภายนอกประเทศไทย ที่นิยมจดกันที่เมืองนอกก็คือเว็บไซต์ godaddy.com, name.com ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้จะมีคูปองส่วนลดเอาไว้ช่วยลดราคาเวลาจดโดเมนเนมนั่นเองครับ ส่วนในไทยก็มีหลายๆเจ้าครับซึ่งส่วนใหญ่ผู้ให้บริการจะมีบริการจดโดเมนเนมพร้อมเช่าโฮสติ้งด้วย ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะจดเพียงโดเมนเนมอย่างเดียว หรือเช่าโฮสติ้งเพียงอย่างเดียวก็ได้ครับ
การเลือกจดโดเมนเนมกับที่ไหนในไทยดี ผมขอบอกว่าจดกับผู้ให้บริการเจ้าไหนก็ได้ครับ ผมขอยกตัวอย่างผู้ให้บริการที่ผมใช้อยู่ครับ
1. Hosting Lotus
2. Dotsiam
3 .Hosttook
4. 4gbhost
5. Hostneverdie
6. P&T hosting

ที่จริงยังมีอีกหลายที่ครับที่ผมใช้บริการอยู่ เอาไว้วันหลังผมจะเขียนบรรยายถึงผู้ให้บริการแต่ละที่ครับว่าเป็นยังไง
สามารถดูข้อมูลข่าวสารสาระสำคัญๆได้ที่ เว็บไซต์ของเรา นะครับ

โปรแกรมช่วยออกแบบ เว็บไซต์ง่ายๆด้วย artisteer 4.2

สำหรับคนออกแบบและทำเว็บไซต์ ผมขอแนะนำโปรแกรมช่วยออกแบบเว็บไซต์ Artisteer ซึ่งสามารถทำ Template เว็บไซต์ และ Template เว็บไซต์ CMS เช่น blogger Joomla Wordpress Drupal


Artisteer เป็นโปรแกรมช่วยออกแบบเว็บไซต์อัตโนมัติ ณ ปัจจุบันออกมาจนถึงเวอร์ชั่น 4.2

Artisteer เป็นโปรแกรมช่วยออกแบบเว็บไซต์ที่มหัศจรรย์เพราะมีหน้าต่างของโปรแกรมเหมือนกับเรากำลังใช้งานโปรแกรม microsoft word เลย Artisteer เป็นโปรแกรมช่วยออกแบบเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย มีเครื่องมือภายในโปรแกรมมากมาย เช่น การแทรกรูปภาพ แทรกวีดีโอ แทรกตาราง

Artisteer สามารถกำหนดส่วนต่างๆของเว็บไซต์ได้ เช่น ส่วนหัว ส่วนเนื้อหา ส่วนfooter ส่วนเสริมต่างๆ
นอกจากนี้ Artisteer  ยังสามารถนำงานที่เราได้ออกแบบไว้สร้างเป็น template เว็บไซต์เพื่อนำมาใช้เป็นเว็บไซต์ทั่วไป หรือใช้ร่วมกับ CMS ดังๆ เช่น blogspot wordpress drupal joomla ซึ่งงานที่ออกมาก็สวยงาม

โปรแกรม Artisteer มีการออกแบบเว็บที่รองรับ CSS, XML, HTML และ Responsive 

Artisteer ถือเป็นโปรแกรมที่น่านำมาใช้งานก ท่านสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.artisteer.com/ นอกจากนี้ ท่านยังสามารถโหลดโปรแกรมมาทดลองใช้ก่อนได้ด้วยครับ ส่วนตัวผมมองว่าโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมออกแบบเว็บไซต์ที่ดีอีกตัวหนึ่งเลยครับ ราคาประมาณ ก็ไม่แพงครับ ตัวธรรมดา ประมาณ 1500 บาทครับ ตัวพิเศษราคาประมาณ 4 พันบาทครับ

อยากมีเว็บไซต์ของตัวเอง เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ทำอย่างไร

สำหรับท่านใดที่ต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตนเองเอาไว้เป็นเว็บองค์กร เว็บขายสินค้าออนไลน์ แบบฟรีๆแล้วละก็ วันนี้ผมจะขอแนะนำครับ


1. ตัวแรก blogger หรือ blogspot เป็นฟรีบล็อคให้เราใช้งานครับเป็นผลิตภัณฑ์ของ google ท่านสามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อสมัครและใช้งานอีเมล์ของ google ครับเพราะทำการเชื่อมต่อผ่าน gmail เมื่อก่อนเอาไว้แค่เขียนเรื่องราวต่างๆเท่านั้นปัจจุบันสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นเว็บไซต์ร้านค้าของตนเองได้คครับ โดยท่านสามารถจดโดเมนเนมเป็นชื่อของท่านได้


2. wordpress.com เป็นบล็อคฟรีชื่อดังเหมือนกับ blogger ครับปัจจุบันมีความนิยมสูงมาก wordpress.com จะมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่หลายๆในกรณีที่ใช้งานฟรีครับแต่ก็ไม่ทำให้การใช้งานทั่วไปลดลงเลย ท่านสามารถซื้อแพ็คเกจต่างๆของ wordpree.com เพื่อพัฒนาความสามารถของเว็บไซต์ได้ครับ


3. tarad.com, weloveshopping, lnwshop เป็นเว็บไซต์ที่เราสามารถสร้างเป็นร้านค้าออนไลน์ได้ ความสามารถโดยทั่วไปมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับร้านค้าออนไลน์ เช่น การแสดงสินค้า การแสดงหมวดหมู่สินค้า ระบบบทความ ระบบเว็บบอร์ด ระบบตะกร้าสินค้า เป็นต้น tarad.com จะจำกัดสินค้าให้ลงได้ประมาณ 30 รายการในแพ็คเกจฟรี หากต้องการเพิ่มความสามารถต้องเลือกแพ็คเกจครับ lnwshop เป็นเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยม

นี่เป็นแค่หนึ่งในเว็บไซต์หลายๆเว็บไซต์ที่คุณสามารถนำมาใช้ในการสร้างเว็บไซต์แบบฟรีๆ หรือนำมาทำเป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์แบบฟรีๆครับ

ความสำคัญและการเลือกใช้งาน Hosting(โฮสติ้ง)


Hosting(โฮสติ้ง) คือ ส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลต่างๆของเว็บไซต์ของเรา โดย โฮสติ่งที่ดีนั้นควรจะมีสิ่งที่สำคัญดังนี้
1.มีการแบ็คอัพข้อมูลสม่ำเสมอ
2.มีความปลอดภัยจากไวรัสคอมพิวเตอร์
3.มีความรวดเร็วในการเรียกใช้ข้อมูล
4.รองรับการใช้งาน script ต่างๆ
5.ความสเถียรของระบบ(การล่มของระบบ)
โฮสติ้งในปัจจุบันมีการแบ่งเป็นหลายๆประเภทตามการใช้งาน เช่น
Shared Web Hosting คือ บริการให้เช่าพื้นที่เก็บรักษาข้อมูลเว็บไซต์โดยมีการใช้ทรัพยากรร่วมกันกับผู้อื่น ข้อดี คือราคาถูก
VPS Hosting คือ โฮสติ่งที่มีความสามารถสูงกว่า Shared Web Hosting มีลักษณะเป็นแบบให้เช่า
Dedicated Hosting คือ โฮสติ่งที่มีความสามารถสูงที่สุด ราคาแพงที่สุด เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการ traffic เยอะๆ และต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูง
โดย โฮสติ้ง จะถูกแยกประเภทตาม OS ที่ใช้ด้วย คือเซฟเวอร์ที่เป็น OS Window และ OS Linux ทั้งสองแบบจะมีส่วนที่แตกต่างเด่นชัดในเรื่องของราคา ซึ่งราคาแบบ OS Window จะมีราคาสูงกว่า OS Linux นิดหน่อย ประสิทธิภาพพอๆกัน
ในปัจจุบันนี้มีโฮสติ้งเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น SEO Hosting, Cloud Web Hosting เป็นต้น
SEO Hosting คือ โฮสเน้นการทำงานด้าน SEO มีการใช้งานต่าง ip เพื่อประโยชน์ทางด้าน SEO
Cloud Web Hosting คือ โฮสติ่งที่ใช้เทคโนโลยีระบบ Cloud Computing Technology โดยมีข้อเด่นเรื่องป้องกันการล่มของระบบ แต่ก็แรกมาด้วยราคาที่สูงตามมาด้วย
------------------------------------------------------------------
เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ >>>  smileandsbye <<<

การเลือก Domain name(โดเมนเนม) สำคัญยังไง

การเลือก Domain name(โดเมนเนม) สำคัญยังไง

 บทความนี้เราจะมาพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอีกซักหน่อยดีกว่าเพราะการเลือกโดเมนที่ดี ก็จะทำให้เราได้เปรียบทางด้าน SEO เหมือนกัน แต่จะได้เปรียบยังไงนั้นมาดูกันครับ
Domain name(โดเมนเนม) คือ ชื่อเว็บไซต์ เช่น www.สนุก.com คำว่า สนุก เป็นโดเมนเนม ปัจจุบันเราสามารถจดโดเมนเป็นชื่อภาษาไทยได้แล้วซึ่งราคานั้นประมาณไม่เกิน 1,000 บาท ชื่อโดเมนสำคัญยังไง คนส่วนใหญ่คิดว่าการตั้งชื่อโดเมนไม่สำคัญอยากตั้งชื่ออะไรก็ได้ตามใจฉันซึ่งความจริงแล้วนั้นไม่ผิดครับ ที่เราอยากจะตั้งชื่ออะไรก็ได้ แต่ครับแต่หากเราให้ความสำคัญกับชื่อโดเมนของเราซักนิดจะทำให้มีคนเข้าเว็บไซต์ของเราเพิ่มมากขึ้นและจะสามารถค้นหาในเครื่องมือ seach engine (ได้แก่ google yahoo bing เป็นต้น) ได้ง่ายขึ้นที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า seach engine ให้ความสำคัญกับโดเมนเนมครับ โดเมนเนมก็เหมือน keyword ที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลใน seach engine นั้นเองหากเราเลือกชื่อโดเมนให้มีความหมายตรงกับคำที่คนค้นหาแล้วนั้นโอกาสที่เว็บของเราจะถูกหาเจอใน seach engine ก็มีสูงทีเดียวครับ เช่น เราตั้งชื่อโดเมนเนมว่า www.ขายรองเท้าผ้าใบ.com แทนที่จะเป็น www.shoe.com คนไทยส่วนใหญ่ก็ต้องพิมพ์คำว่า รองเท้า มากกว่าคำว่า shoe อยู่แล้วหรือการตั้งชื่อโดเมนโดยใช้ชื่อบริษัทหรือองค์กรมาใช้ชื่อโดเมนนั้นอาจจะบ่งบอกถึงความเอกลักษณ์ของคุณแต่ไม่ได้ทำให้การค้นหาใน seach engine ง่ายขึ้นเลย แต่ถ้าหากบริษัทหรือองค์กรของคุณดังจริงก็ใช้เถอะครับ ^_^ ส่วนการจะใช้ชื่อเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษดีนั้นขึ้นอยู่กับเราครับว่าเน้นลูกค้าประเทศไหน ถ้าคนไทยก็จดเป็นภาษาไทยก็ดีครับยิ่งทำให้ค้นหาง่ายขึ้น ส่วนนามสกุลของเว็บไซต์จะใช้อะไรก็ได้ครับถ้าทั่วๆไปก็ .com ก็ได้ครับสำหรับผมคิดว่าไม่สำคัญเท่าไหร่
สรุปนะครับ จากข้อความข้างบนจะเห็นว่าการเลือกชื่อโดเมนที่ตรงกับกลุ้มเป้าหมายจะทำให้เรามีโอกาสหาลูกค้าที่เข้าเว็บได้เร็วและมากยิ่งขึ้นนะครับเหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภทหรือธุรกิจค้าขายครับ ส่วนจะใช้ชื่อไทยหรือภาษาอังกฤษก็เลือกตามกลุ่มลูกค้าละกันครับว่าอยากได้คนไทยหรือฝรั่ง
------------------------------------------------------------------------------------------
ขอฝากเว็บไซต์ไว้หน่อยนะครับ >>>  รับออกแบบเว็บไซต์เชียงใหม่ <<<

ตัวช่วยสำหรับการทำเว็บไซต์ให้ง่ายขึ้น


จากบทความ ความรู้พื้นฐานก่อนเริ่มทำเว็บไซต์ และ ประเภทของเว็บไซต์ในปัจจุบัน ทุกท่านคงพร้อมแล้วสำหรับการลงมือทำเว็บไซต์แต่ก่อนจะมาเริ่มกัน ผมขอแนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้การทำเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายไปเลยครับ
ตัวแรกนั่นคือ CMS 
CMS ย่อมากจาก Content Management System เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้การสร้างเว็บไซต์สะดวกรวดเร็ว โดยผู้ทำไม่จำเป็นต้องรู้โค้ดสำหรับการทำเว็บเลย ซึ่ง CMS ในปัจจุบันมีหลายตัวเหลือเกินได้แก่
Joomla(จูล่า) CMS จูมล่ามีความสามารถในการปรับปรุงตกแต่งเว็บไซต์ให้สวยงามได้ มีการจัดแยกเนื้อหาเป็นสัดส่วน อีกทั้งผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องรู้ภาษาในการทำเว็บก็สามารถใช้งานได้
ตัวต่อมา CMS wordpress(เวิร์ดเพรส) เวิร์ดเพรสเป็น CMS ที่มีความสามารถในการใช้แนว blog ซึ่งตัวของเวิร์ดเพลสเองมีความเรียบง่ายและมีความรวดเร็วในการเรียกใช้งาน
ตัวสุดท้ายที่จะกล่าวถึง SMF เป็น CMS แนว webboard เป็นที่นิยมในการสร้างเว็บแนวพูดคุยกันเมื่อก่อนปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมอยู่ ซึ่ง CMS แนวนี้มีอีกตัวที่นิยมกันคือ Discuz ทั้ง 2 แบบเป็น CMS แนว webboard แต่มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างกัน discuz จะออกแนวๆการ์ตูน ส่วน smf จะออกแนวคลาสสิกซะมากกว่า
นี้คือ CMS ที่ผุ้คนนิยมใช้กันนะครับอาจจะมีอย่างอื่นอีกแต่ผมไม่ได้ยกตัวอย่างมาก มาต่อกันเลยดีกว่าครับ
เครื่องมือต่อมาคือเว็บสำเร็จรูปครับ
เว็บสำเร็จรูปคือ เว็บไซต์ที่เราสามารถปรับแต่งเองได้เกือบหมดทุกอย่างเช่น หน้าตาเว็บ ตัวหนังสือ เนื้อหา เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์ได้อีกต่างหาก หรือจะใช้สร้างเว็บ blog webboard ก็มีครับตัวอย่างเช่นเว็บ ขายสินค้าก็ welobeshopping, tarad.com, หรือเขียน blog ก็ blogger, wordpress.com, boggang เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายที่ครับที่เปิดให้บริการถึงพวกนี้จะมีข้อดี แต่ก็ยังมีข้อเสียเหมือนกันครับคือชื่อเว็บไซต์ไม่ใช่เป็นของเรา หากต้องการให้เป็นชื่อของเราต้องเสียเงินครับ และการใช้เว็บเหล่านี้เราไม่สามารถเข้าไปแก้ในส่วนลึกได้ครับ
บทความนี้ก็ขอเป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการมีเว็บไซต์ของตนเองนะครับ ปัจจุบันเราไม่ต้องมาเขียนโค้ดเองก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตนเองได้แล้วครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอฝากเว็บไซต์ไว้ได้วยนะครับ >>> รับโปรโมทเว็บ  <<<

ประเภทของเว็บไซต์ในปัจจุบัน


จากบทความ ความรู้พื้นฐานก่อนเริ่มทำเว็บไซต์ ก่อนหน้านี้ทำให้เราพอจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์คราวๆแล้วนะครับ ต่อมาในบทความนี้ผมจะขอนำเสนอประเภทของเว็บไซต์และการนำไปใช้ เพื่อเป็นแนวทางให้ใครหลายๆคนนะครับ
1.เว็บประเภท blog เว็บประเภทบล็อก (blog) คือ เว็บที่ใช้เขียนหรือโพสข้อมูลที่เป็นข้อความ รูปภาพ หรือ สือมีเดีย คล้ายๆกับเขียนไดอารี่ เว็บไซต์ประเภทนี้ได้แก่พวก blogger, wordpress.com ซึ่งนิยมนำมาใช้เขียนบทความเพราะใช้ง่าย เหมาะสำหรับการเขียนเรื่องราว หรือ ไดอารี่มาก
2.เว็บประเภท องค์กรหรือบริษัท เว็บประเภทนี้จะมีข้อมูลเนื้อหาเป็นส่วนๆเพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถหาข้อมูลในส่วนต่างๆได้ง่าย องค์กรหรือบริษัทส่วนใหญ่จะทำเว็บแนวนี้
3.เว็บไซต์ขายของออนไลน์ เป็นเว็บไซต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อให้สามารถจับจ่ายซื้อของบนโลกออนไลน์ได้ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมมาก ตัวอย่างเว็บแนวนี้ได้แก่ tarad.com,  weloveshopping เป็นต้น
4.เว็บชุมชนออนไลน์หรือ webboard เป็นเว็บที่เกี่ยวกับการรวมกลุ่มเพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลายๆสิ่งร่วมกัน เป็นประโยชน์ให้กันและกัน เช่น zoneit,  cm-club เป็นต้น
5.เว็บแนว social คือ เว็บที่ใช้สำหรับพูดคุย สื่อสาร แชร์สิ่งต่างๆให้กัน มีปฏิสัมพันธ์กันเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เช่น facebook,  google+ เป็นต้น
เมื่อเรารู้ประเภทของเว็บไซต์แล้วเราก็สามารถประยุกต์ใช้ให้ถูกกับแนวที่เราจะทำนะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------
เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ >>> รับทำเว็บไซต์ <<<

ความรู้พื้นฐานก่อนเริ่มทำเว็บไซต์


ผมจะใช้ภาษาชาวบ้านละกันนะครับเพราะเรื่องวิชาการผมไม่เก่งเท่าไหร่ สำหรับหลายๆคนที่อยากมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง คุณรู้หรือไม่ว่าก่อนที่เราจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเองได้นั้นเราต้องมีอะไรบ้าง และอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ มาเริ่มกันเลยนะครับ ^_^
เว็บไซต์(website) คือ หน้าเว็บที่แสดงข้อมูลต่างๆผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยมีการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กันข้อมูลนั้นๆ
เว็บเพจ(web page) คือ หน้าเว็บหน้าเดียว ซึ่งการนำเสนอข้อมูลในนั้นหากรวมกันหลายๆเว็บเพจจะเรียกว่า เว็บไซต์
โดเมนเนม(domain name) คือ ชื่อที่ใช้บ่งบอกถึงเว็บไซต์ของเรา เช่น www.thailand.com คำว่า thailand เป็น domain name ซึ่งโดเมนจะแบ่งออกเป็นอีกหลายประเภทแล้วแต่ประเภทการใช้งานเช่น
.com คือ ทั่วไป
.org คือ องค์กรที่ไม่หวังผลกำไร
.net คือ เกี่ยวกับเครือข่าย
.ac คือ สถานศึกษา
เป็นต้น
โฮสติ่ง(hosting) คือ ที่ๆเรานำข้อมูลไปเก็บไว้เพื่อให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามาดูข้อมูลได้ โดยข้อมูลทั่วไปของโฮสติ่งจะมีลักษณะดังนี้
disk space คือ พื้นที่ในการใช้จัดเก็บเว็บไซต์
data transfer คือ ปริมาณ การรับ-ส่ง ข้อมูล
เป็นต้น
html คือ ภาษาที่ใช้แสดงหน้าเว็บ ผ่านเว็บบราวเซอร์
php คือ ภาษาที่ใช้ในการแสดงข้อมูลเว็บไซต์ซึ่งทำงานอยู่ในส่วนของเครื่อง server ช่วยเพิ่มความสามารถของเว็บไซต์ให้มากขึ้น
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------
เยี่ยนเยี่ยนเว็บไซต์ได้ที่ >>>  รับทำเว็บไซต์ <<<

CMS เว็บสำเร็จรูป ตัวช่วยทำเว็บไซต์ให้ง่ายขึ้น

CMS เว็บสำเร็จรูป ตัวช่วยทำเว็บไซต์ให้ง่ายขึ้น

 


CMS ย่อมาจาก Content Management System เป็นระบบที่ถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้ สามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องภาษา html ปัจจุบัน CMS ที่นิยมใช้มีหลายประเภทซึ่งมีความสามารถแตกต่างๆกันเช่น

CMS สำหรับสร้างเว็บบอร์ด
เช่น SMF, Discuss

CMS สำหรับสร้างเว็บไซต์มีระบบหน้าร้าน - หลังร้าน
เช่น  Joomla

CMS สำหรับสร้างblog
เช่น Wordpress
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
แวะเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่



ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์เพื่อต่อยอดการตลาดออนไลน์

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์เพื่อต่อยอดการตลาดออนไลน์


ก่อนจะเริ่มทำการตลาดออนไลน์เรามารู้จักสิ่งสำคัญในการทำเว็บไซต์เพื่อต่อยอดการทำตลาดออนไลน์กันเถอะ

Domain name คือ ชื่อที่บ่งบอกถึงเว็บไซต์ของเรา เช่น www.gogo.com คำว่า gogo เป็น Domain name
Hosting คือ ที่ๆใช้เก็บข้อมูล ไฟล์ต่างๆของเว็บไซต์ของเรา
Data transfer คือ ปริมาณการถ่ายโอนข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง นั้นคือระหว่างเว็บไซต์กับคอมที่ใช้เข้าเว็บ
E - commerce คือ การทำธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ ในที่นี้คือการจับจ่ายซื้อขายกันบนโลกออนไลน์
E - maketting คือ การทำการตลาดโดยใช้สื่ออิเล็คทรอกนิกส์ นั้นคือสื่อต่างๆที่ออนไลน์นั้นเอง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามารถพูดคุยเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์




เครื่องมือที่ช่วยในการทำ SEO

เครื่องมือเบื้องต้นที่ช่วยในการทำ SEO


คือ ตัวช่วยที่จะทำให้การทำ SEO ของเราง่ายขึ้น เราลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1.ตัวช่วยตรวจสอบค่า PR เว็บไซต์  = เว็บไซต์ http://www.prchecker.info/ ซึ่งเราแค่กรอกชื่อเว็บไซต์ลงไปแล้วกดปุ่ม Check pr เราก็จะทราบค่า PR แล้ว
2.ตัวช่วยตรวจสอบ Back Link เว็บไซต์ = เว็บไซต์ http://www.backlinkwatch.com/ ช่วยตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของเรามี Back Link อะไรและมาจากที่ไหนบ้าง เพียงแค่เรากรอกชื่อเว็บไซต์และกด Check backlink

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถพูดคุยเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ = = = > รับทำเว็บไซต์ราคาถูกเชียงใหม่

การทำ SEO แบบ Off page

การทำ SEO แบบ Off page 


มีหลักการและวิธีทำดังนี้
1.การเชื่อมโยงลิงค์มาที่เว็บไซต์เราจากเว็บอื่นเรียกว่า backlink ที่นิยมกันมากคือการโพสตามที่ต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาของเรา เช่น การพิมพ์ link ของเว็บเราจากเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว

2.การเชื่อมโยงลิงค์มาที่เว็บไซต์เราจากเว็บอื่น โดยการเสนอแลกลิงค์ หรือที่เรียกกันว่าเว็บเพื่อนบ้าน
โดยเราและเค้าจะมีลิงค์เชื่อมโยงต่อกัน โดยตำแหน่งและรายละเอียดนั้นขึ้นอยู่กับข้อตกลงทั้ง 2 เว็บ

3.การแนะนำเว็บไซต์เรากับพวก สารบัญเว็บ ต่างๆ เช่น www.sanook.com

นี้คือการทำ SEO แบบ Off page
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถพูดคุยเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ = = = > รับทำเว็บไซต์และโปรโมทเว็บไซต์เชียงใหม่


การทำ SEO แบบ On page

การทำ SEO แบบ On page 


มีหลักการและขั้นตอนในการทำดังนี้
1. การให้ความสำคัญกับ keyword เพราะการที่คนเราจะค้นหาอะไรต้องมีคำที่ต้องการค้นหาก่อน
2. การเลือกใช้ชื่อ domain name ก็เหมือนกับการเริ่มต้นดีมีใช้ไปกว่าครึ่ง เช่นเราขายสินค้าเกี่ยวกับ บ้าน แต่แต่เราใช้ ชื่อ domain name ว่า goodview อันนี้ก็จะไกลจากสิ่งที่เราจะทำจนเกินไปนอกจากว่าเราคิดว่าคำนี้จะแสดงถึงแบรด์ของเราและจะดังจริงๆ เราควรจะใช้คำว่าที่เกี่ยวข้องกับคำว่า บ้าน เช่น home เป็นต้นปัจจุบันสามารถใช้ ชื่อ domain name เป็นภาษาไทยได้แล้วเช่น www.ขายบ้าน.com เป็นต้นซึ่งเหมาะสำหรับการทำการตลาดในเมืองไทยเป็นอย่างมาก
3.การเน้นคำกับพวก keyword โดยใช้ ภาษาhtml พวก <h> ต่างๆเพราะถือเป็นการให้ความสำคัญ
4.การทำเนื้อหาให้สอดคล้องกับ keyword โดยใช้ปริมาณ keyword ในเนื้อหาไม่น้อยหรือมากจนเกินไปจากจำนวกคำในเนื้อหาทั้งหมด
5.การเชื่อมโยงลิงค์ภายในเว็บไซต์ เช่น เมนูต่าง

นี้คือหลักการเบื้องต้นสำหรับการทำ SEO แบบ On page นะครับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถพูดคุยเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ = = = > รับทำเว็บไซต์และโปรโมทเว็บไซต์เชียงใหม่


หลักการทำSEO

หลักการทำ SEO


เราต้องรู้จัก SEO ก่อน SEO ย่อมากจาก Search Engine Optimization แปลแบบบ้านๆว่าการค้นหาเจอใน Search Engine ที่เรารู้จักดังๆก็ได้แก่ google หลักการที่จะทำให้ค้นหาข้อมูลต่างๆเจอจาก Search Engine นั้นๆเรียกว่าการทำ SEO ซึ่งนอกจากการทำ SEO แล้วสามารถจ่ายเงินเพื่อโปรโมทเว็บไซต์กับ google เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของ google เวลาเราค้นหาข้อมูล เราเรียกวิธีนี้ว่าการลงโฆษณา google adwords  การทำ SEO นั้นมีวิธีการทำอยู่ 2 แบบคือ
1. การทำ SEO แบบ On page คือการทำให้เนื้อหาเว็บไซต์ของเรานั้นมี keyword ที่จำเป็นในการค้นหาอยู่
2. การทำ SEO แบบ Off page คือการทำให้มี backlink เข้ามาในเว็บไซต์ของเรา

นี้คือหลักการหรือวิธีทำ SEO เบื้องต้นครับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถพูดคุยเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ = = = > รับทำเว็บไซต์และโปรโมทเว็บไซต์เชียงใหม่

คำศัพท์ที่สำคัญในการทำ SEO


SEO= SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization แปลว่าการเป็นมิตรกับ Search Engine หรือการทำให้ตัวค้นหาออนไลน์หาเจอง่ายๆ
Google Adwords = การลงโฆษนากับ google โดยมีการชำระเงินตามแต่นโยบายของ google
SEO On page = คือการให้ความสำคัญกับเนื้อหา มีวิธีทำดังนี้ >>> การทำSEO On page
SEO Off page =คือการให้ความสำคัญกับ backlink มีวิธีทำดังนี้ >>> การทำSEO Off page
backlink = คือการเชื่อมโยงจากลิงค์ของเว็บภายนอกเข้าสู่เว็บของเรา
keyword = คือการใช้คำที่มีความหมายที่สื่อถึงผลิตภัณฑ์ สินค้า แบรด์ ที่มีความหมายถึงเรามากที่สุด เช่น ถ้าเว็บขายสินค้าเกี่ยวกับรองเท้า keyword คือ รองเท้า
Domain name = ชื่อที่บ่งบอกถึงเว็บไซต์ของเราเช่น www.computer.com คำว่า computer เป็น Domain nameซึ่งต้องจ่ายเป็นรายปี
Hosting = คือที่ๆให้บริการฝากข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเว็บไซต์ของเราซึ่งต้องจ่ายเป็นรายปี
ภาษา html = คำสั่งที่ใช้ในการทำเว็บไซต์
สารบัญเว็บ = แหล่งรวมข้อมูลเว็บไซต์ต่างๆเอาไว้ด้วยกันทำให้ง่ายต่อการค้นหา
เว็บเพื่อนบ้าน = เว็บที่เป็นพันธมิตรและมีลิงค์เชื่อมโยงถึงกัน
PR หรือ Page Rank = คือค่าที่ใช้บอกว่าหน้าเว็บนั้นๆมีคุณภาพเท่าไหร่ ซึ่งเต็ม 10
E - commerce คือ การทำธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ ในที่นี้คือการจับจ่ายซื้อขายกันบนโลกออนไลน์
E - maketting คือ การทำการตลาดโดยใช้สื่ออิเล็คทรอกนิกส์ นั้นคือสื่อต่างๆที่ออนไลน์นั้นเอง
CMS ย่อมาจาก Content Management System เป็นระบบที่ถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้ สามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องภาษา html
SMF = คือ CMS ตัวหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับเว็บบอร์ด
Discuss  = คือ CMS ตัวหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับเว็บบอร์ด
Wordpress  = คือ CMS ตัวหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับblog
ฺBlog  = เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการเขียนบรรยายต่างๆแนวๆไดอรี่

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถพูดคุยเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ = = = > รับทำเว็บไซต์และโปรโมทเว็บไซต์เชียงใหม่


บทนำ ทำความรู้จักการทำการตลาดออนไลน์ และการทำ SEO

     บทนำเรื่องการทำการตลาดออนไลน์แบบ SEO


     สวัสดีครับ ก่อนเริ่มผมขอแนะนำก่อนว่าผมไม่ได้มีประสบการณ์หรือมีความาสมารถในด้านนี้มากมาย เพียงแต่ blog ที่ผมสร้างนี้เปรียบเสมือสมุดบันทึกว่าผมไปเจอและได้ค้นพบอะไรมาบ้าง ซึ่งต้องการจะนำเสนอและชี้แนะแนวทางทั้งตัวผมเองและผู้ที่ได้อ่านเพื่อเป็นแนวทางนะครับ

     เข้าเรื่องเลยนะครับการโปรโมทร้านค่าหรือสินค้าให้เป็นที่รู้จักปัจจุบันเราใช้สื่อ online มาช่วยเพราะนอกจากจะหวังผลได้แล้วยังมีความสะดวกรวดเร็วทั้งต่อเจ้าของแบรนด์หรือลูกค้า สิ่งที่ผมจะเขียนนี้คือเป็นส่วนหนึ่งของการทำการตลาดออนไลน์นะครับ ซึ่งเค้าเรียกว่าการทำ SEO (เรียกบ้านๆว่าการโปรโมทเว็บให้หาเจอในเน็ตง่ายๆ) ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราทำการตลาดแบบนี้สำเร็จเราต้องมีเว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ หรือ สื่อที่จะใช้ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเพื่อความสะดวกนะครับ

      สรุปนะครับ blog นี้จะนำเสนอเรื่องราวประสบการณ์ที่ได้เริ่มทำ การตลาดออนไลน์ แบบ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของเราหาเจอง่ายๆในโลกออนไลน์นะครับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถพูดคุยเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ = = = > รับทำเว็บไซต์และโปรโมทเว็บไซต์เชียงใหม่